สารบัญบทความ
หลายคนอาจเคยได้ยินมาว่าการชาร์จมือถือในรถนั้นจะทำให้แบตเตอรี่รถเสื่อมเร็วขึ้น ซึ่งก็อาจทำให้รู้สึกกังวลเพราะในบางครั้งก็มีความจำเป็นที่จะต้องชาร์จจริงๆ ต้องบอกว่าอันที่จริงแล้วสาเหตุที่ทำให้แบตเตอรี่รถยนต์เสื่อมนั้นก็เกิดมาจากหลายสาเหตุด้วยกันไม่ใช่เพียงแค่การชาร์จมือถือในรถเท่านั้น และวันนี้เราก็มีคำตอบมาให้เพื่อไขข้อข้องใจว่าแท้ที่จริงแล้วการชาร์จมือถือในรถนั้นเสี่ยงทำให้แบตเตอรี่รถเสื่อมจริงหรือไม่ พร้อมทั้งแนะนำวิธีการชาร์จที่ถูกต้องมาฝากกัน
ชาร์จมือถือในรถทำให้แบตเตอรี่รถยนต์เสื่อมเร็วจริงหรือไม่?
อันที่จริงแล้วการชาร์จมือถือในรถเป็นเพียงการดึงเอากระแสไฟเล็กน้อยมาใช้เท่านั้น ไม่มีผลทำให้แบตเตอรี่รถเสื่อมได้ โดยเฉพาะมือถือรุ่นใหม่ที่ส่วนใหญ่แล้วจะใช้แบตเตอรี่เป็นแบบลิเทียมไอออน ที่จะใช้งานร่วมกับพอร์ต USB ในรถ ซึ่งถ้าหากมองแล้วก็เหมือนกับการชาร์จแบตเตอรี่จากแหล่งจ่ายไฟตามปกติ แต่จะต้องเลือกใช้อุปกรณ์สำหรับชาร์จมือถือในรถที่ได้มาตรฐาน และไม่ควรเสียบมือถือเท่ากับสายชาร์จในจังหวะก่อนที่จะสตาร์ทรถ แต่ถ้าหากมีการชาร์จมือถือในรถที่มากเกินไป อย่างเช่น ชาร์จมือถือในรถหลายเครื่องพร้อมกันเป็นประจำก็จะเป็นการเพิ่มปริมาณการใช้งานของแบตเตอรี่ ซึ่งแน่นอนว่าสามารถทำให้แบตเตอรี่รถเสื่อมได้
วิธีชาร์จมือถือในรถให้ปลอดภัยและถูกต้อง
- การชาร์จมือถือในรถควรจะทำตอนสตาร์ทเครื่องเรียบร้อยแล้วถึงจะเสียบชาร์จแบตเตอรี่มือถือ ไม่ควรเสียบสายชาร์จทิ้งไว้แล้วสตาร์ทเครื่องเพราะในตอนที่สตาร์ทเครื่องนั้นกระแสไฟจะมีการกระชากและอาจทำให้แบตเตอรี่มือถือเสียหายได้
- ใช้สายชาร์จของแท้ที่ได้มาตรฐานเท่านั้น
- ควรชาร์จมือถือในรถกับ Power Bank มากกว่าการชาร์จจากรถโดยตรง
- ห้ามชาร์จมือถือกับ Power Bank ทิ้งเอาไว้ในรถที่ตากแดด เพราะอาจเกิดการระเบิดขึ้นมาได้
ดังนั้นสำหรับใครที่มีความจำเป็นต้องชาร์จมือถือในรถเป็นบางครั้งก็สบายใจได้เลยว่าไม่ทำให้แบตเตอรี่รถเสื่อมอย่างแน่นอน เพราะเป็นการดึงเอากระแสไฟมาใช้เพียงเล็กน้อยเท่านั้น เนื่องจากสาเหตุการเสื่อมของแบตเตอรี่รถโดยทั่วไปแล้วก็จะเกิดจากพวกอุปกรณ์ไฟฟ้าต่างๆ ที่ติดตั้งอยู่ในรถเป็นส่วนใหญ่ อันที่จริงควรห่วงในเรื่องของการเสื่อมสภาพของแบตเตอรี่มือถือมากกว่าเมื่อมีการชาร์จมือถือในรถ เพราะกระแสไฟที่ได้อาจจะไม่มีความสม่ำเสมอเหมือนกับการชาร์จแบตเตอรี่จากแหล่งจ่ายไฟตามปกตินั่นเอง