สารบัญบทความ
อย่างที่เรารู้กันว่า ปัจจุบัน รถยนต์กลายมาเป็นสิ่งจำเป็นในชีวิตของคนเรา แต่ด้วยภาวะเศรษฐกิจในตอนนี้ การจะออกรถใหม่มือหนึ่ง ก็อาจจะส่งผลกระทบต่อสภาพคล่องในการเงินไม่น้อย ดังนั้นตัวเลือกอย่าง “รถมือสอง” ก็เป็นอะไรที่น่าสนใจไม่น้อย เพราะหากเราเลือกดี ๆ ก็จะได้รถที่คุณภาพดี สวย ใหม่ เหมือนกับรถมือหนึ่ง หากใครที่กำลังตัดสินใจจะซื้อรถมือสองอยู่ล่ะก็ วันนี้เรามีเทคนิคการเลือกซื้อรถมือสองดี ๆ ที่จะไม่โดนย้อมแมวมาฝากกัน
สภาพภายนอกรถยนต์
สิ่งที่เราสามารถสังเกตเห็นได้ง่ายที่สุด คือภายนอกรถยนต์ ไม่ว่าจะเป็นรอยเฉี่ยวชน รอยบุบ รอยลักยิ้ม รอยสนิม ฯลฯ รวมถึงความเป็นอะไรเดิม ๆ ของรถที่เราจะซื้อ อย่างการติดตั้งพาร์ทรอบคัน ความสมบูรณ์ พร้อมใช้งานมากน้อยแค่ไหน ซึ่งควรสามารถตรวจได้ไปจนถึงภายในของฝากระโปรงรถและฝาท้าย ว่ามีความคดงอหรือไม่ สิ่งสำคัญของสภาพภายนอกคือ โครงสร้างของรถยนต์จะต้องสมบูรณ์และมีลักษณะเดิม ๆ ที่สุด
สภาพภายในรถยนต์
นอกจากภายนอกแล้ว ภายในรถก็สำคัญไม่แพ้กัน เราจะต้องตรวจสอบสภาพ รอยแตก หรือรอยชำรุดต่าง ๆ ภายในบริเวณแผงคอนโซลรถ หน้าปัดเรือนไมล์ ว่าสามารถแสดงผลได้อย่างครบถ้วนหรือไม่ รวมถึงแอร์ปรับอากาศ ยังทำความเย็นได้ดีอยู่หรือเปล่า รวมถึงระบบไฟฟ้าภายในรถ ทั้งเครื่องเสียง กระจกไฟฟ้า ระบบเซ็นทรัลล็อค และระบบอื่น ๆ ที่จำเป็นต้องเช็ค นอกจากนี้ เบาะรถก็ต้องเช็คด้วยเช่นกัน มีรอยขาดชำรุด หรือมีกลิ่นไม่พึงประสงค์ด้วยไหม
ตรวจเช็คเลขไมล์รถ
ในส่วนของเลขไมล์รถเป็นส่วนที่สำคัญมาก ๆ สำหรับการเลือกซื้อรถมือสองสักคัน เพราะเป็นตัวบอกความสมบูรณ์ของรถยนต์ โดยเฉลี่ยแล้ว รถที่ใช้งานเป็นปกติ เลขไมล์จะอยู่ที่ราว ๆ 30,000 กม. / 1 ปี แต่ทั้งนี้ก็ต้องดูปัจจัยอื่น ๆ ประกอบกันไปด้วย เพราะในรถบางคันที่สภาพสมบูรณ์มาก ๆ เลขไมล์ก็อาจจะน้อยได้เหมือนกัน แต่ในขณะเดียวกัน ที่ต้องระวังคือ มีเต็นท์รถบางแห่งก็มักจะย้อมแมว ด้วยการนำรถที่ผ่านการใช้งานอย่างหนักหน่วงมากรอเลขไมล์ให้ได้เลขไมล์ที่น้อย
ปีของรถยนต์
ไม่ใช่แค่ภายนอกหรือภายใน อย่าเชื่อเด็ดขาด ถ้าผู้ขายบอกปีรถยนต์ที่ดูจะสวนทางกับสภาพของรถ ทางผู้ขายจะต้องแสดงประวัติปีของรถยนต์อย่างชัดเจน และทางผู้ซื้อจะต้องตรวจสอบได้ด้วยค่ะ เพราะปีของรถยนต์จะเป็นตัวชี้วัดการตีราคารถมือสอง ซึ่งปีของรถยนต์ที่ว่านี้ ไม่ได้หมายความถึงปีจดทะเบียนนะคะ แต่เป็นปีที่ผลิตผลิตรถยนต์
เครื่องยนต์
หัวใจสำคัญของรถยนต์ที่ห้ามพลาดที่จะไม่เช็คไม่ได้ นั่นคือ เครื่องยนต์ วิธีเช็คง่าย ๆ ที่คุณเองก็ทำได้ ให้คุณลองสตาร์ทเครื่องดูว่าสามารถสตาร์ทเครื่องได้เป็นปกติหรือไม่ รอบเดินเบา รอบสูงมีความไหลลื่น หรือพบความผิดปกติอะไรไหม นอกจากนี้ ควรเช็คไปถึงความสั่นสะท้านที่เข้ามาในส่วนของผู้โดยสารมีมากน้อยแค่ไหน ที่สำคัญกว่านั้น อย่าลืมสอบถามเรื่องการเปลี่ยนถ่ายของเหลวอย่าง น้ำมันเกียร์ น้ำมันเครื่อง ว่าเปลี่ยนมานานแค่ไหนแล้ว รวมถึงสภาพของแบตเตอรี่ ขั้วแบตเป็นปกติไหม และเปิดฝากระโปรงเพื่อเช็คการทำงานของสายพาน และที่ห้ามพลาดคือ การก้มลงไปมองที่พื้นว่ามีรอยน้ำหรือน้ำมันหยดลงมาหรือเปล่า
เช็คช่วงล่าง
รถยนต์ที่ดีไม่ควรมีดีแค่เปลือก ดังนั้นให้คุณตรวจเช็คใต้ท้องรถด้วยค่ะ รวมถึงส่วนของยางรถให้รอบว่ารอยแตกอะไรบ้างหรือเปล่า และอีกอย่างคือระบบโช้คอัพจะต้องมีความแน่น ไม่มีรอยน้ำมันซึมหรือรั่วไหลอย่างเด็ดขาด
ทดลองขับจริง
สิ่งที่ขาดไม่ได้คือการทดลองขับจริง แน่นอนว่าถ้าไม่ลองขับจริง เราก็จะไม่สามารถรู้ได้เลยว่าเครื่องมันดีจริง ๆ ไหม หลายคนอาจจะคิดว่าการทดลองขับจริงมีแค่ในรถมือหนึ่ง แต่อันที่จริงมือสองก็สามารถทำได้เช่นกัน สิ่งแรกที่ควรเช็ค คือ เครื่องยนต์มีความสั่นคลอนแค่ไหน โดยเริ่มเข้าเกียร์ D แล้วจึงเหยียบเบรคค้างไว้ เพื่อเช็คว่ามีอาการสั่นมากน้อยแค่ไหนในรอบเดินเบา อย่าลืมที่จะสังเกตความสมูทของเครื่องยนต์ด้วย ว่าพบอาการสะดุดตรงไหนบ้างไหม
เอกสารประจำรถยนต์
ต่อให้รถยนต์มีความพร้อมสมบูรณ์มากแค่ไหน แต่ถ้าหากขาดเอกสารประจำรถยนต์ไปล่ะก็ เห็นทีว่าคงหมดสิทธิ์ครอบครองรถแล้วล่ะค่ะ เช็คให้ดีทั้งสมุดคู่มือการจดทะเบียน ประกันภัยรถยนต์ และสมุดเข้ารับการซ่อมบำรุง ว่ามีการรับการตรวจสม่ำเสมอหรือไม่
นำรถเข้าศูนย์บริการทันทีหลังการซื้อขาย
แม้ว่ารถที่เรารับมาจะดูดีมาก สมบูรณ์มากอย่างไรก็ตาม แต่สิ่งสำคัญควรรีบนำเข้าศูนย์บริการแต่ละแบรนด์อีกครั้ง เพื่อให้ช่างเทคนิคตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง ซึ่งเป็นเรื่องที่ดีมาก เพราะเราอาจจะตกหล่นในการเช็คเอง หากพบจุดไหนที่ชำรุดจะได้ซ่อมและแก้ไขได้ตรงจุด
หากใครจะซื้อรถมือสอง ลองนำการเช็คลิสต์ข้างต้นไปเช็คตรวจสอบสถาพรถที่จะซื้อกันได้ค่ะ สิ่งสำคัญคือจะต้องละเอียดและรอบคอบมาก ๆ ทางที่ดี วันที่ไปเลือกซื้อ ลองพาเพื่อนไปสักคน เพราะหลายตาย่อมดูได้ละเอียดมากกว่านั่นเอง