สารบัญบทความ
ขึ้นชื่อว่าเชื้อเพลิงถือได้ว่าเป็นหัวใจสำคัญของรถยนต์ แต่ในขณะเดียวกันก็จัดว่าเป็นวัตถุอันตรายสำหรับผู้ขับขี่ หากเลือกใช้ไม่ถูกชนิด หลายครั้งต่อหลายครั้งที่เรามักจะได้ยินคนเติมน้ำมันที่ไม่เหมาะสมกับรถคันนั้น ๆ ส่งผลให้รถเกิดความเสียหายตามมามากมาย ซึ่งก็มีไม่น้อยที่มักจะตั้งคำถามว่าควรเลือกน้ำมันชนิดไหนจึงจะดีที่สุดสำหรับรถของเรา ดังนั้นเราจึงนำข้อมูลดี ๆ มาฝากกันค่ะ
อะไรที่เราควรพิจารณาในการเลือกชนิดน้ำมันที่ต้องใช้
- รถยนต์ที่เราใช้อยู่นั้นใช้น้ำมันชนิดใดได้บ้าง และเกรดใดบ้างของน้ำมันเชื้อเพลิง ซึ่งก็จะแตกต่างกันไปในแต่ละรุ่น และแบรนด์ของรถ
- หากเราเติมน้ำมันผิดชนิด อาการที่รถจะบอกให้ทราบว่าเติมหรือใช้น้ำมันผิดชนิดนั่นคือ มีอาการเครื่องยนต์สะดุด วิ่งไม่ออก หรือหากมีอาการที่รุนแรงกว่านั้นคือเครื่องยนต์สตาร์ทไม่ติด ให้เราคิดง่าย ๆ ว่า เครื่องยนต์ก็คล้าย ๆ กับร่างกายของเรานี่แหละค่ะ คือ สามารถทานอะไรได้บ้าง ไม่ได้บ้าง
- เมื่อเราทราบแล้วว่ารถยนต์ของใช้น้ำมันชนิดไหน เราก็ควรจะทราบด้วยว่ามีน้ำมันชนิดไหนบ้างที่สามารถใช้ทดแทนกันได้ นั่นเป็นเพราะในบางปั๊มน้ำมันอาจจะไม่ได้จำหน่ายน้ำมันที่เราใช้เป็นประจำก็ได้ เราก็จะยังสามารถใช้น้ำมันชนิดอื่นทดแทนกันได้ ในกรณีที่ไม่สามารถหาปั๊มน้ำมันอื่น ๆ ได้ แต่ในขณะเดียวกัน เราก็ต้องทราบด้วยว่า มีน้ำมันชนิดไหนบ้างที่ไม่สามารถนำมาเติมได้โดยเด็ดขาด
ข้อสังเกตในการใช้น้ำมันชนิดอื่นมาทดแทน
- เบนซิน 91 น้ำมันที่เติมทดแทนกันได้ > เบนซิน 95
- แก๊สโซฮอล์ 91 น้ำมันที่เติมทดแทนกันได้ > แก๊สโซฮอล์ 91 และ 95
- แก๊สโซฮอล์ 95 น้ำมันที่เติมทดแทนกันได้ > แก๊สโซฮอล์ 95 และเบนซิน
- แก๊สโซฮอล์ E20 น้ำมันที่เติมทดแทนกันได้ > แก๊สโซฮอล์ 91, 95 และเบนซิน
- แก๊สโซฮอล์ E85 น้ำมันที่เติมทดแทนกันได้ > แก๊สโซฮอล์ 91, 95, E20 และเบนซิน
ส่วน เบนซิน 95 ไม่สามารถมีอะไรมาเติมแทนกันได้ค่ะ
รถประเภทไหน เหมาะกับน้ำมันชนิดไหนบ้าง?
เบนซิน 91
น้ำมันชนิดนี้แทบจะเหมาะกับรถทุกประเภท ยกเว้นรถที่มีระบุไว้ว่า เติมน้ำมันชนิด เบนซิน 95 เท่านั้น ซึ่งหากเราฝืนเติม 91 เข้าไป รถก็จะออกอาการที่ให้เราทราบว่าใช้น้ำมันผิดชนิด ก็อาจจะแค่เครื่องยนต์สะดุด เดินเบาไม่เรียบ แต่รถสามารถวิ่งได้ แต่หลายครั้งน้ำมันชนิดนี้จะหาเติมได้ยาก เพราะบางปั๊มไม่มีให้บริการ เนื่องจากมีชนิดของน้ำมันเชื้อเพลิงอื่นเข้ามาแทนที่ได้
เบนซิน 95
น้ำมันชนิดนี้จะเหมาะกับรถที่ใช้น้ำมันเบนซิน เนื่องจากเป็นน้ำมันที่ไม่มีส่วนผสมของเอทิลแอลกอฮอล์ และมีค่าออกเทนสูง มีการเผาไหม้ที่ดีที่สุดของน้ำมันในขณะนี้ และมีการป้องกันการน็อคของเครื่องยนต์สูง การเผาไหม้ของเครื่องยนต์จึงสมบูรณ์ และให้กำลังของการจุดระเบิดสูงตามมา อีกทั้งสมรรถนะการขับขี่ยังตอบสนองได้เร็ว แต่ติดตรงที่มีราคาที่สูงกว่าน้ำมันชนิดอื่น ๆ แต่ก็อย่างที่เขาว่าล่ะค่ะ หลายครั้งของแพงก็มักจะดี
แก๊สโซฮอล์ 91
สำหรับน้ำมันชนิดนี้ควรเลี่ยงในรถที่ไม่มีการระบุว่าสามารถใช้น้ำมันดังกล่าวนี้ได้ เพราะจะเกิดการกัดกร่อนจากเอทิลแอลกอฮอล์ ที่มีส่วนผสมในน้ำมันเชื้อเพลิง ส่งผลให้ท่อยาง, โอริงปั๊มน้ำมันเชื้อเพลิง หรือหัวฉีดเกิดการรั่วได้ สมรรถนะการขับขี่ตอบสนองได้เร็ว แต่ถ้าหากรถระบุว่าสามารถเติมแก๊สโซฮอล์ 91 ได้ เท่ากับว่าน้ำมันชนิดอื่น ๆ อย่างเบนซิน 95, 91 และแก๊สโซฮอล์ 95 ก็สามารถเติมได้เช่นกัน แต่ข้อควรระวังคือ หากเป็นรถที่จอดทิ้งไว้นาน ๆ มากกว่า 1 เดือนขึ้นไป ไม่ควรเติมน้ำมันชนิดนี้ค่ะ เพราะจะเกิดการระเหยของน้ำมันเชื้อเพลิงขึ้นได้ แถมยังจะมีโอกาสที่น้ำมันจะเสียได้ด้วย
แก๊สโซฮอล์ 95
น้ำมันชนิดนี้ ใช้หลักการพิจารณาเดียวกับแก๊สโซฮอล์ 91 เลยค่ะ ที่บอกว่า ควรเลี่ยงในรถที่ไม่มีการระบุว่าสามารถใช้น้ำมันดังกล่าวนี้ได้ และจะเกิดข้อเสียที่เหมือนกันเลย
แก๊สโซฮอล์ E20
มีหลายคนมากเลยค่ะ ที่เติมน้ำมันชนิดนี้ โดยดยไม่รู้ว่าเครื่องยนต์ไม่สามารถรองรับได้ จึงเป็นสิ่งที่คุณควรต้องเช็คก่อนว่ารถยนต์รองรับได้หรือไม่ เนื่องจากเครื่องยนต์ที่สามารถใช้น้ำมันชนิดนี้ได้ ต้องมีการปรับอุปกรณ์ และปรับอัตราส่วนผสมให้เกิดการเผาไหม้ที่สมบูรณ์ หากรถคุณมีระบุอย่างชัดเจนที่คุ่มือการใช้รถ หรือที่ฝาถังว่าสามารถใช้น้ำมันแก็สโซฮอลล์ E20 ได้ คำแนะนำคือ หากชอบการประหยัดในการเติมน้ำมัน ไม่เน้นขับรถแบบแรง ๆ เติมได้เลย และยังสามารถเติมน้ำมันเบนซิน 91, 95, แก๊สโซฮอล์ 91, 95 ได้อีกด้วย อีกทั้งยังมีความประหยัดในการเติมน้ำมันด้วยค่ะ ส่วนสมรรถนะมีความใกล้เคียงกับเบนซิน 95 เนื่องจากเครื่องยนต์มีการออกแบบ และเซ็ทให้สมรรถนะวิ่งได้เหมือนกับเบนซิน 95 นั่นเอง
แก๊สโซฮอล์ E85
สำหรับน้ำมันชนิดสุดท้ายนี้เรียกว่าเป็นน้ำมันมวลชนก็ว่าได้ เพราะสามารถรองรับน้ำมันชนิดอื่น ๆ ข้างต้นนี้ได้ทั้งหมดเลยค่ะ คุณจะประทับใจในการเลือกใช้รถรุ่นที่รองรับน้ำมันชนิดนี้ เพราะจะได้ความประหยัดในการเติมน้ำมันแบบสุด ๆ แถมสมรรถนะยังสูสีใกล้เคียงกับเบนซิน 95 อีกด้วย แต่ข้อเสียของน้ำมันชนิดนี้ รถยนต์จะซดน้ำมันมากขึ้น เป็นผลมาจากเอทานอลบริสุทธิ์ให้พลังงานน้อยกว่าน้ำมันเบนซินธรรมดา นั่นหมายความว่า ก็จะได้ระยะทางที่วิ่งได้น้อยกว่าด้วย แต่หากเติมเบนซิน 95 เพียว ๆ แล้วเปรียบเทียบดู จะรู้ได้ทันที ในขณะออกตัวหรือเร่งแซง น้ำมันแก็สโซฮอลล์ E85 จะพบความแตกต่างอยู่บ้าง
ฟังดูอาจจะซับซ้อนและยุ่งยากสักเล็กน้อย แต่หากผู้ใช้รถทุกคนศึกษาและทำความเข้าใจก็ย่อมส่งผลดีกับรถยนต์ของคุณแน่นอนค่ะ