สารบัญบทความ
ปัญหาอีกประการหนึ่ง สำหรับชมรมคนรักรถก็คือ จะทำอย่างไร ที่จะรักษาสีรถให้สดใสใหม่กิ๊งเหมือนเดิม เหมือนตอนซื้อมาใหม่ เพราะสีรถเป็นปราการด่านหน้าที่เวลาทุกคนเห็นก็จะตีความได้ก่อนเลยว่ารถคุณใหม่หรือเก่า และ ยังสะท้อนไปถึงเจ้าของรถด้วยว่า เป็นคนดูแลรักษาของอย่างดีหรือไม่ มาดูวิธีการง่ายๆ 3 ข้อต่อไปนี้ ที่จะทำให้รถคุณ สีสดใสใหม่เหมือนวันแรกที่ซื้อมา
หลีกเลี่ยงการจอดรถกลางแจ้ง
- อากาศร้อน แดดแรงของประเทศไทยนั้น ช่างเป็นอาวุธร้ายทำลายรถที่น่ากลัวอย่างยิ่ง สำหรับท่านที่เป็นไปได้ควรจอดรถในบ้าน ในร่ม กลับบ้านมาแล้ว ดึกดื่นขนาดไหน เสียเวลาอีกสักหน่อย ขับรถเข้าไปจอดในบ้านที่มีร่ม หรือหากอยู่คอนโด หรือขับรถไปเที่ยวที่ไหน ลองเสียเวลาวนหาอีกสักนิด พารถของท่านเข้าไปพักผ่อนในร่ม เพื่อสุขภาพสีที่ยืนนานขึ้น แต่ควรระวังอย่าจอดรถใต้ต้นไม้ ที่มียาง หรือที่นกเกาะเยอะ เพราะอาจส่งผลร้าย กับสีรถของท่านได้มากกว่า
สำหรับท่านที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ ต้องจอดรถไว้กลางแจ้ง อาจหาซื้อร่มคลุมรถ มาใช้ เพื่อบรรเทาความร้อนของแดด ส่วนผ้าคลุมรถนั้น ต้องพิจารณาเนื้อผ้าให้ดี เพราะเนื้อผ้าบางประเภทหากโดนแดดมากๆ อาจถึงกับละลายติดเนื้อรถ หรือ เศษฝุ่นก้อนกรวด ที่ติดมากับผ้า อาจขูดขีดรถเป็นรอยได้ ตอนที่เอาเข้าออกบ่อยๆ
ล้าง ทำความสะอาดรถของท่านอย่างสม่ำเสมอ
- ฝุ่น ควัน หรือเศษสิ่งสกปรกต่างๆ ล้วนมีผลต่อสีรถของท่านทั้งสิ้น รอยติดแน่นที่ฝังนาน เช่น ยางไม้ ต่างๆ เจ้าของรถพึงตรวจสอบอย่างสม่ำเสมอ หากปล่อยไว้นาน เมื่อรอยฝังลึกจะทำให้รถเป็นรอย หรือสีเปลี่ยนได้เมื่อขัดออก และที่สำคัญอีกประการหนึ่งก็คือ ควรล้างให้ครบขั้นตอน เมื่อล้างอย่าลืมเช็ดให้แห้งด้วยผ้าที่เหมาะสม และหากเป็นไปได้ เคลือบเงารถของท่านแถมไปด้วยอีกขั้น เพื่อให้สีดูสดใสมันวาว และทนทาน ต่อแดดลม มากยิ่งขึ้น
เคล็ดลับของคนรักรถอีกประการหนึ่ง ก็คือ หากไม่มั่นใจในร้านที่รับล้างรถจริงๆแล้ว ล้างรถเองได้ก็ดีครับ หากท่านมีบริเวณ มีเวลา ไม่มีใครรักรถเราเท่าเราเอง ร่องรอย ตรงไหน อย่างไร เราจำได้ ก็จะได้ถูกันอย่างพิถีพิถัน ถูกต้องยิ่งขึ้น
ป้องกันและแก้ไขให้ถูกจุด เหมาะสมสำหรับรถแต่ละคัน
- ป้องกันและแก้ไขให้ถูกจุด เหมาะสมสำหรับรถแต่ละคัน – โดยปกติแล้ว สิ่งที่จะทำให้รถของท่านสีซีดจางหรือมีรอยมาจาก 3 ปัจจัยใหญ่ๆดังต่อไปนี้ ซึ่งท่านต้องพิจารณาและหาวิธีป้องกันแก้ไข ให้เหมาะกับสภาพของแต่ละบุคคลและรถแต่ละคัน
- แสงแดด (ตัวหลักเลยในประเทศไทย) – แก้ไขโดย จอดรถในร่ม หาผ้าคลุม หรือผ้าใบ
- ควัน หรือสารเคมีต่างๆในอากาศ และบริเวณใกล้เคียง – หากรุนแรง อาจพิจารณาหาที่จอดรถที่ไกลออกไป หรือทำความสะอาดรถให้บ่อยขึ้น
- สิ่งต่างๆที่อาจตกใส่รถ เช่น ยางไม้ หรืออุจจาระนก และสัตว์อื่นๆ – แก้ไขโดยหาวิธีป้องกันไม่ให้นกมาเกาะบริเวณใกล้เคียง เลือกชนิดต้นไม้ที่ปลูกให้เหมาะสมกับรถที่จอด
เพียงสามข้อนี้ง่ายๆ ไม่ต้องเยอะ ขอให้ใส่ใจและสม่ำเสมอ รับประกันว่า รถของท่านจะดูเหมือนใหม่อยู่เสมอ เหมือนวันแรกที่ซื้อมา ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปกี่ปี