อัพเดท! จุดชาร์จไฟรถไฟฟ้า ใกล้ที่ไหนแวะไปเลย

ถ้าพูดถึงนวัตกรรมยานยนต์ที่กำลังมาในปีนี้เลย ต้องยกให้ “รถยนต์ไฟฟ้า” เรียกว่าเป็นเทรนด์ในอนาคตที่ผู้ใช้หลายคนกำลังจับตามองที่จะเปลี่ยนจากรถที่ใช้น้ำมันกลายเป็นรถที่ใช้ไฟฟ้าแทน แต่ติดปัญหาอยู่ที่ความกังวลใจว่าถ้าซื้อมาใช้แล้ว จะมีที่ชาร์จไฟหรือเปล่า หาที่ชาร์จไม่ได้จะทำอย่างไร ถ้าจุดให้บริการชาร์จไฟมีไม่เพียงพอ เราจึงจะมาอัพเดทจุดชาร์จไฟรถยนต์ไฟฟ้ากันค่ะ ว่ามีสถานีชาร์จไฟฟ้าที่ไหนกันบ้าง สามารถมาเช็คและแพลนการเดินทางได้เลย

MEA EV บริการจุดชาร์จรถไฟฟ้า จองได้แบบเรียลไทม์

ปัจจุบันการไฟฟ้านครหลวงได้เปิดบริการสถานีอัดประจุไฟฟ้าให้สำหรับผู้ที่ใช้งานรถไฟฟ้าหรือรถยนต์ไฟฟ้า โดยสามารถทำการจองสถานีชาร์จและหัวชาร์จผ่านทางแอปพลิเคชัน MEA EV ได้แบบเรียลไทม์ ซึ่งเครื่องอัดประจุไฟฟ้าแบบธรรมดา จะใช้เวลาในการชาร์จประมาณ 4-8 ชั่วโมง ส่วนเครื่องอัดประจุไฟฟ้าแบบเร็ว ใช้เวลาประมาณ 20-30 นาที จะได้ 80% ของกำลังจุ ซึ่งการชาร์จแต่ละครั้ง รถสามารถวิ่งได้ 100 กิโลเมตร (ขึ้นอยู่กับกำลังจุแบตเตอรีในรถแต่ละรุ่นด้วยค่ะ) โดยจุดชาร์จของ MEA มีให้บริการ 10+2 แห่ง ได้แก่

  • กฟน. สำนักงานใหญ่เพลินจิต
  • กฟน. เขตวัดเลียบ
  • กฟน. เขตสามเสน
  • กฟน. เขตบางขุนเทียน
  • กฟน. เขตลาดกระบัง
  • กฟน. เขตราษฎร์บูรณะ
  • กฟน. เขตบางเขน
  • กฟน. เขตบางใหญ่
  • กฟน. สมุทรปราการ
  • กฟน. บางพูด

และอีก 2 แห่ง ที่ทาง MEA จับมือกับ 7-Eleven ให้ได้ชาร์จกันแบบฟรี ๆ ได้แก่

  • 7-Eleven สาขาบ้านสวนลาซาล (ศรีนครินทร์)
  • 7-Eleven สาขา สน.บางขุนนนท์

สำหรับใครที่อยู่ต่างจังหวัดและสนใจที่จะใช้งานรถไฟฟ้า ทาง PEA ก็จัดสถานีชาร์จไฟฟ้าให้ 4 จุด ทั้งหมด 11 สถานี ได้แก่

  1. สายภาคเหนือ (กรุงเทพฯ – อยุธยา) จำนวน 2 สถานี
  2. สายภาคใต้ (กรุงเทพฯ – หัวหิน) จำนวน 4 สถานี
  3. สายภาคตะวันออก (กรุงเทพฯ – พัทยา) จำนวน 3 สถานี
  4. สายภาคตะวันตก (กรุงเทพฯ – นครปฐม) จำนวน 1 สถานี พร้อมสำนักงานใหญ่ กฟภ. จำนวน 1 สถานี

อีกเจ้าหนึ่งอย่าง PTT (ปตท.) ยังมีบริการจุดชาร์จไฟแบบ Quick Charge และชาร์จไฟแบบธรรมดา โดยสามารถตรวจสอบสถานีให้บริการได้จากลิงก์นี้ > PTT EV Station

หรืออย่างสถานีบริการน้ำมัน พีที ที่ได้ร่วมกับ กฟผ. ติดตั้งสถานีอัดประจุไฟฟ้า EleX by EGAT สามารถเช็คสถานีให้บริการได้ที่นี่ > ElexaEV

นอกจากนี้ ก็ยังได้รับการสนับสนุนจากภาคเอกชนที่เข้ามาให้บริการสถานีชาร์จ ได้แก่

  1. EA Anywhere หรือบริษัทพลังงานบริสุทธิ์ ที่มีจุดชาร์จให้เลือกกว่า 1,000 แห่ง ทั้งกรุงเทพฯ ปริมณฑล และหัวเมืองใหญ่ที่เป็นแหล่งท่องเที่ยว สามารถตรวจสอบจุดให้บริการได้ที่ >
    EA Anywhere
  2. Charge Now จาก BMW ที่ให้บริการจุดชาร์จกระจายทั่วกรุงเทพฯ กว่า 50 แห่ง เช็คจุดบริการ > ChargeNow
  3. Greenlot ที่จับมือกับสถานีบริการน้ำมัน Shell เปิดให้บริการ เช็คสถานีที่นี่ > Greenlot
  4. EVolt Thailand สถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าที่ให้บริการอย่างครบวงจร เช็คจุดให้บริการ > EVolt
เราคงยังต้องติดตามกันต่อไปว่า จากนี้วงการรถไฟฟ้าจะมีการพัฒนา ปรับปรุงคุณภาพและขยายจุดบริการออกไปจนครอบคลุมและเพียงพอต่อความต้องการของผู้ใช้ได้หรือไม่ แน่นอนว่าเทรนด์รักษ์โลกจะทำให้ผู้คนหันมาใช้รถไฟฟ้ามากขึ้น ตราบใดยังมีความต้อง ตราบนั้นการพัฒนาก็จะไม่วันหยุด
Total
0
Shares
โพสต์ก่อนหน้า

เทคนิคการเลือกซื้อรถมือสอง เลือกให้ดี ไม่โดนย้อมแมว

โพสต์ถัดไป

[ไขข้อสงสัย] ฟิล์มรถยนต์ มีกี่แบบ พร้อมเคล็ดลับการเลือกใช้

บทความที่เกี่ยวข้อง

แอบส่อง 5 รถยนต์คู่ใจของเหล่าไอดอลดังเกาหลี เห็นแล้วต้องร้องว้าว

เพื่อนคู่ใจที่คอยรับส่งเหล่าโอปป้าและออนนี่ของเราเวลาที่ต้องเดินทาง จะสวยสง่า เทสดีสมคำร่ำลือขนาดไหน พร้อมแล้วมาดูกันเลย
Avatar
อ่านต่อ

เคลือบแก้วคืออะไร ควรทำหรือไม่ พร้อมข้อดี-ข้อเสีย

สำหรับคนรักรถนั้นต่างก็มีสารพัดวิธีเพื่อที่จะทำให้รถของคุณดูสวยงามเหมือนใหม่อยู่ตลอดเวลา  และอีกหนึ่งวิธีที่หลายคนเลือกใช้ก็คือการเคลือบแก้วเพื่อปกป้องสีรถและทำให้รถดูสวยงามเหมือนใหม่อยู่เสมอ แต่ก็เชื่อได้ว่าอีกหลายคนอาจจะยังสงสัยว่าเคลือบแก้วคืออะไร ควรทำหรือไม่ และมีข้อดีข้อเสียอย่างไร วันนี้เรามีคำตอบมาให้แล้ว
Avatar
อ่านต่อ

[How to] วิธีเลือกรถยนต์ เครื่องดีเซล กับ เครื่องเบนซิน แบบไหนที่ใช่สำหรับคุณ

สำหรับใครที่กำลังมองหารถยนต์เอาไว้ใช้งานกันสักคันหนึ่ง จะสังเกตเห็นได้ว่าบางรุ่นนั้นก็มีให้เลือกทั้งเครื่องยนต์ดีเซลและเครื่องยนต์เบนซิน ซึ่งก็อาจจะทำให้เกิดการตัดสินใจหรือเกิดความลังเลว่าจะเลือกแบบไหนดีกว่ากัน วันนี้เราจึงมีวิธีเลือกรถยนต์ว่าจะใช้เครื่องยนต์ดีเซลหรือเครื่องยนต์เบนซินมาเทียบคุณสมบัติกันช็อตต่อช็อตว่าแบบไหนที่ใช่สำหรับคุณ
Avatar
อ่านต่อ
Total
0
Share