คลายข้อสงสัย ถอดรองเท้าขับรถ อันตรายหรือไม่

ในช่วงการเริ่มต้นเรียนขับรถหลายคนมักจะชอบถอดรองเท้า เพราะรู้สึกว่าถนัดกว่า เพราะได้เหยียบสัมผัสกับเบรก คลัชต์ คันเร่ง ได้มั่นใจกว่า จึงมักชอบถอดรองเท้าเวลาขับรถ แต่ทราบหรือไม่ว่า ผู้เชี่ยวชาญทางด้านการขับรถไม่แนะนำให้ถอดรองเท้าขณะขับรถ เพราะเกิดอันตรายได้ง่าย

จากผลการสำรวจจากเว็บไซต์ Confused พบว่า ผู้หญิงมากกว่า 39% สวมรองเท้าแตะขับรถ อีก 37% สวมรองเท้าอื่น ๆ ในการขับรถ และ 24% นิยมขับรถด้วยเท้าเปล่า นั่นแสดงว่าผู้หญิงที่ชอบถอดรองเท้าขับรถมีน้อยกว่าคนที่ชอบสวมรองเท้าขับรถ ซึ่งนับว่าเป็นเรื่องที่ดี เพราะผู้เชี่ยวชาญการขับรถแนะนำว่า การสวมรองเท้าขณะขับรถถือว่าเป็นสิ่งที่ถูกต้อง ปลอดภัยมากกว่าการถอดรองเท้าขณะขับรถ

ดังนั้นการถอดรองเท้าขณะขับรถ ย่อมส่งผลเสียและอันตรายมากกว่า และนี่คือผลของอันตรายจากการถอดรองเท้าเมื่อขับรถ

อันตรายจากการถอดรองเท้าขับรถ

  1. ผู้ขับรถเกิดอาการเกร็งเท้าจนอาจเป็นตะคริวได้ เพราะต้องเกร็งเท้ามากในขณะขับรถ ส่งผลให้เกิดอาการเจ็บปวดที่เท้าและบริเวณขาได้ และยังไปลดประสิทธิภาพในการขับขี่อีกด้วย
  2. หากเท้าเปียกอันเนื่องมาจากเหงื่อหรือฝน ก็จะทำให้เท้ามีความลื่น เวลาเหยียบเบรก เหยียบคลัชต์ เหยียบคันเร่ง ก็อาจทำให้เท้าลื่นไถลออกจากแป้นเหยียบได้ ทำให้เกิดอันตรายในการขับขี่ และข้อเท้าพลิกบาดเจ็บได้
  3. การถอดรองเท้าไว้ใต้ที่นั่งเบาะคนขับ ก็จะเกิดอันตรายในการขับขี่ได้ง่าย หากรองเท้านั้นลื่นไถลไปขัดกับแป้นเหยียบเบรก คันเร่ง หรือคลัชต์ จึงไม่ควรวางสิ่งใดรวมทั้งรองเท้าไว้ใต้เบาะที่นั่งคนขับ
  4. เท้ามีกลิ่นเหม็น อันเนื่องมาจากความอับชื้นของเหงื่อในขณะสวมรองเท้าไปทำกิจกรรมต่าง ๆ และเมื่อถอดรองเท้าออกขณะขับรถ ก็จะยิ่งเพิ่มความสกปรกให้กับเท้ามากขึ้น เป็นที่สะสมของแบคทีเรีย ทำให้เท้ามีกลิ่นเหม็น ส่งผลต่อสภาวะอารมณ์ของผู้ขับขี่และผู้โดยสารที่นั่งรถมาด้วยได้ และทำให้เป็นโรคเชื้อราที่เท้าอีกด้วย
  5. การถอดรองเท้า อาจเป็นสาเหตุให้เกิดโรครองช้ำที่ส้นเท้าได้ เนื่องจากการลงน้ำหนักเท้าไม่เท่ากัน และการที่เท้าใช้กล้ามเนื้อออกแรงในส่วนเดิมซ้ำกันเรื่อย ๆ ทุกวัน โดยเฉพาะส้นเท้าส่งผลให้เกิดอาการอักเสบปวดบวมที่บริเวณส้นเท้า และลักษณะการเดินผิดปกติไปจากปกติ นอกจากนี้ยังมีผลกระทบต่อประสิทธิภาพการควบคุมและขับรถยนต์ด้วยหากถอดรองเท้าขับรถ
  6. การถอดรองเท้าขณะขับรถ ถือว่าผิดกฎหมาย โดยกฎหมายได้บังคับให้ผู้ขับขี่รถรับจ้าง รถสาธารณะ รวมไปถึงรถแท็กซี่, รถจักรยานยนต์สาธารณะ หรือรถนำเที่ยว ฯลฯ ต้องสวมรองเท้าหุ้มส้นขณะขับรถด้วย ทั้งนี้เพื่อให้เกิดความเป็นระเบียบเรียบร้อยของผู้ประกอบอาชีพให้บริการนี้

โดย พ.ร.บ.การขนส่งทางบก มาตรา 102 (1) และกฎกระทรวง พ.ศ. 2555 ระบุว่า “ในขณะขับรถรับจ้าง รถยนต์สาธารณะ ผู้ขับขี่ต้องแต่งกายให้สุภาพเรียบร้อยรัดกุม และสวมใส่รองเท้าหุ้มส้นหรือหุ้มข้อ หากฝ่าฝืนจะถูกระวางโทษปรับไม่เกิน 5,000 บาท ตามมาตรา 127”

จากที่กล่าวมาข้างต้น จะเห็นได้ว่า การถอดรองเท้าขณะขับรถ ส่งผลเสียและอันตรายต่อผู้ขับขี่และผู้โดยสารหากมีผู้โดยสารนั่งมาด้วย รวมทั้งผู้ใช้รถใช้ถนน แต่ทว่าการสวมรองเท้าขณะขับรถนั้นทำให้เกิดอันตรายที่น้อยกว่า และช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการควบคุมการขับขี่ได้มากกว่า อีกทั้งช่วยให้เท้าไม่เกิดอาการบาดเจ็บอีกด้วยนอกจากนี้ที่สำคัญ ควรขับขี่อย่างมีสติ ระมัดระวังเสมอนะครับ ไม่ประมาทเป็นดีที่สุดครับผม
Total
0
Shares
โพสต์ก่อนหน้า

เล่มทะเบียนรถหาย ไม่ต้องตกใจ ทำตามขั้นตอนง่ายๆดังนี้

โพสต์ถัดไป

น้ำยาแอร์รถยนต์เติมเมื่อไหร่ดี คำถามนี้มีคำตอบ

บทความที่เกี่ยวข้อง

สีรถถูกโฉลก 2564 เลือกสีที่ใช่ เสริมดวง เฮง รวย ไม่รู้ตัว

ประเทศไทยเราน่าจะเป็นประเทศแห่งสายมูที่แท้จริง นอกจากการมาเลือกว่าวันนี้จะใส่เสื้อผ้าสีอะไรให้เฮง ๆ ปัง ๆ ในทุก ๆ เรื่องแล้ว หรือเราอาจจะได้เห็นสติ๊กเกอร์ที่ติดท้ายรถหลายคันว่า “รถคันนี้สี...” ราวกับเป็นการโกงดวงชะตาว่าฉันขับรถสีนี้แล้วดี แต่ถ้าจะให้ดีแบบเสมอต้นเสมอปลาย ก็เลือกสีรถตั้งแต่ตอนจะซื้อไปเลยสิคะ แน่นอนว่าสีรถก็ต้องถูกโฉลกตามวันเกิดของคนขับอีกด้วย วันนี้เราจึงนำข้อมูลเกี่ยวกับสีรถถูกโฉลก 2564 มาฝากกัน ว่าสีไหนจะใช่ จะโดน ใครอยากรวย อยากเฮง และปลอดภัย ต้องตามไปดูกันค่ะ
Avatar
อ่านต่อ

ชาร์จมือถือในรถ เสี่ยงแบตเตอรี่รถเสื่อมจริงหรือไม่ พร้อมแนะนำวิธีใช้งานที่ถูกต้อง

หลายคนอาจเคยได้ยินมาว่าการชาร์จมือถือในรถนั้นจะทำให้แบตเตอรี่รถเสื่อมเร็วขึ้น ซึ่งก็อาจทำให้รู้สึกกังวลเพราะในบางครั้งก็มีความจำเป็นที่จะต้องชาร์จจริงๆ ต้องบอกว่าอันที่จริงแล้วสาเหตุที่ทำให้แบตเตอรี่รถยนต์เสื่อมนั้นก็เกิดมาจากหลายสาเหตุด้วยกันไม่ใช่เพียงแค่การชาร์จมือถือในรถเท่านั้น และวันนี้เราก็มีคำตอบมาให้เพื่อไขข้อข้องใจว่าแท้ที่จริงแล้วการชาร์จมือถือในรถนั้นเสี่ยงทำให้แบตเตอรี่รถเสื่อมจริงหรือไม่ พร้อมทั้งแนะนำวิธีการชาร์จที่ถูกต้องมาฝากกัน
Avatar
อ่านต่อ

เล่มทะเบียนรถหาย ไม่ต้องตกใจ ทำตามขั้นตอนง่ายๆดังนี้

หากมีเหตุให้เล่มทะเบียนรถหาย ไม่ต้องตกใจว่าจะทำอย่างไรก่อนหรือหลัง เพียงทำตาม ขั้นตอนง่ายๆ ต่อไปนี้ ท่านก็จะสามารถมีเล่มทะเบียนรถใหม่มาใช้ได้เหมือนเดิม ภายในระยะเวลาไม่นานเกินรอ
Avatar
อ่านต่อ
Total
0
Share